When you can come to Bangkok regardless of any reason, do not underestimate that this small capital will have nothing to see or to do. That is not true. You can do so many things that you may not even imagine. One day is never enough for Bangkok. But for anyone who has only really…
สวัสดีวันชิล ๆ นอนนึกถึงการท่องเที่ยวว่าทริปหน้าจะไปไหนดีน้าา แต่ก่อนจะไป Dealsee มีอะไรสนุก ๆ มาให้อ่าน อิอิ ไหน ๆ .. เพื่อน ๆ คนไหนชอบเรื่องทายนิสัยกันบ้างเอ่ย เราลองมาดูกันซิว่า ราศีไหน มีนิสัยการท่องเที่ยวยังไง ราศีบอกนิสัยการท่องเที่ยว Aries/เมษ (21 มีนา – 19 เมษา) #เธอเกิดมาเพื่อท่องเที่ยว คำพูดนี้ไม่เกินจริงเลย บอกเลยว่า born to be เที่ยวได้ทุกแบบ ทุกที่ ไปได้หมด เพราะการผจญภัยและความ outgoing มันอยู่ในสายเลือด ราศีนี้รักความท้าทาย ดูได้เลยจากทริปที่ผ่าน ๆ มา เพราะโลกกว้างคือสนามเด็กเล่นของชาวเมษเค้าล่ะฮะ และยังเป็นผู้ลงมือทำมากกว่านั่งคิดไปเรื่อย ๆ หมายความว่า ถ้าตั้งใจจะไปท่องโลกที่ไหนแล้ว มันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ชาวเมษไม่แคร์ว่าจะไปเที่ยวคนเดียว เพราะความสามารถพิเศษของเค้าคือสามารถหาเพื่อนเที่ยวได้ระหว่างทาง บอกเลยว่า ใครได้เที่ยวกับชาวราศีนี้ ไม่มีวันเบื่อและประทับใจแบบสุด ๆ…
ฮัลโหลโก๋เก๋ทุกคน มาเจอกันอีกทีช่วงค่ำๆ แอดปล่อยเจ้ดีลซีพาไปเที่ยวโรงแรมสวยๆกับน้องหมาน้องแมวมาแล้วทั้งวัน ระหว่างเที่ยวแอดก็สังเกตได้ว่า เอ๊ะ ธุรกิจโรงแรม น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเลยนะ หลังโควิดเนี่ย ว่าแล้วแอดก็เปิดตำราหาข้อมูลมาฝากทุกคน เจอข้อมูลน่าสนใจจาก Lonely Planet ลองอ่านไปพร้อมๆกันเลยนะ ตามคำบรรยายได้ภาพจ้า 🤓 ด้วยความที่แขกจะเล็งเห็นความสำคัญเรื่องความสะอาดเป็นลำดับต้นๆเลย รวมถึงเวลาการให้คะแนนโรงแรมตอนรีวิวด้วย ฉะนั้น โรงแรมก็ต้องให้ความสำคัญในการทำความสะอาดเป็นพิเศษทั้งส่วนหน้าและหลังบ้าน มีการจัดการที่เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งในเรื่องการทำความสะอาด สุขอนามัย รวมถึงการประเมินสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ โรงแรมอาจจะมีการใช้หลักปฏิบัติเดียวกัน รวมไปถึงการ deep clean ห้องนอนและห้องน้ำหลังจากลูกค้าเช็คเอ้าท์ ในบางแบรนด์โรงแรมก็แอดวานซ์กว่านั้น จะมีการ make sure ว่า จะไม่มีใครเข้าห้องลูกค้าที่กำลังมาเช็คอินเลยหลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว โดยจุดที่มีการสัมผัสในห้องก็ต้องมีการฆ่าเชื้อด้วยเช่นกันจ้า เช่น รีโมททีวี สวิตช์ไฟ ลูกบิดประตู เป็นต้น นึกภาพเวลาเราไปกินอาหารเช้าที่ไลน์บุฟเฟต์ใช่มะ เรื่องการรักษาระยะห่างนี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เราต้องจับช้อน ทัพพี หรือเหยือกน้ำร่วมกับแขกคนอื่นๆ หลังจากนี้เราอาจจะต้องกินจานใครจานมันหรือห้องอาหารอาจจะทำเป็น grap-and-go ก็ว่าไป แม้กระทั่งเวลาเราไปดื่ม ก็จะมีกับแกล้มฟรีชะ มันก็อาจจะไม่มีอีกต่อไปเพื่อป้องกันการส่งต่อภาชนะให้กัน ฉะนั้น โรงแรมต้องงหาวิธีลดการสัมผัสระหว่างแขกให้มากที่สุด อาจจะไม่มีมินิบาร์ในห้อง หรือการเสิร์ฟอาหารที่ห้องด้วยเหมือนกัน ฮืออ อะไรกันเนี่ยยย…
